เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายต่างๆที่เกี่ยวข้อง
ประวัติกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ |
วิสัยทัศน์ พันธกิจ วัฒนธรรมองค์กร |
หน้าที่และอำนาจ |
ภารกิจ |
ยุทธศาสตร์ และแผนปฏิบัติราชการ |
นโยบายพลังงาน |
โครงสร้างองค์กร |
ทำเนียบบุคลากร |
ผู้บริหาร |
ราชการบริหารส่วนกลาง |
สำนักงานเลขานุการกรม |
กองความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมเชื้อเพลิงธรรมชาติ |
กองจัดการเชื้อเพลิงธรรมชาติ |
กองเทคโนโลยีการประกอบกิจการปิโตรเลียม |
กองบริหารกิจการปิโตรเลียมระหว่างประเทศ |
กองบริหารสัญญาและสัมปทานปิโตรเลียม |
กองยุทธศาสตร์และแผนงาน |
กองสัญญาแบ่งปันผลผลิต |
ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร |
กลุ่มตรวจสอบภายใน |
กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร |
ผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง (CIO) |
สถานที่ติดต่อ |
Logo กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ |
พระราชบัญญัติปิโตรเลียม |
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม |
พระราชบัญญัติองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย |
พระราชบัญญัติความผิดเกี่ยวกับสถานที่ผลิตปิโตรเลียมในทะเล |
คู่มือมาตรา 69/70 |
คู่มือการจัดการของเสียจากสถานประกอบกิจการปิโตรเลียม |
คู่มือการจัดทำรายงานสิ่งแวดล้อมสำหรับการสำรวจคลื่นไหวสะเทือน |
คู่มือการเปลี่ยนแปลง สิทธิ ประโยชน์ และพันธะในสัมปทานปิโตรเลียม ภายใต้ พ.ร.บ. ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 |
การจัดสรรเงินให้แก่ท้องถิ่นตามข้อกำหนดในกฎกระทรวง ออกโดยกระทรวงมหาดไทย ดังนี้
ตามนโยบายการกระจายอำนาจการปกครองและรายได้สู่ท้องถิ่นของรัฐบาล ได้มีการจัดสรรรายได้ที่รัฐได้รับจากการผลิตทรัพยากรเพื่อการพัฒนากลับคืนสู่ท้องถิ่นที่เป็นแหล่งทรัพยากร
มิถุนายน 2539 - มิถุนายน 2544
จัดสรรตาม พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด และกฏกระทรวงมหาดไทย โดยมีหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และอัตราการจัดสรรค่าภาคหลวงปิโตรเลียม ดังนี้
• ค่าภาคหลวงสำหรับแหล่งบนบก จะจัดสรรเงินค่าภาคหลวงที่รับชำระให้อัตราร้อยละ 20 ให้แก่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และร้อยละ 30 ให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นำฝากไว้ที่กรมบัญชีกลาง เพื่อรอการโอนเงินให้แก่ท้องถิ่นตามเวลาที่กำหนด (ทุก 3 เดือน) ส่วนที่เหลือร้อยละ 50 แจ้งกองคลัง นำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
• ค่าภาคหลวงสำหรับแหล่งในทะเล ให้นำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินทั้งหมด
กรกฎาคม 2544 - ปัจจุบัน
คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมี รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ ได้มีประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และอัตรา การจัดสรรค่าภาคหลวงปิโตรเลียม และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 1 กรกฏาคม 2544 เป็นต้นไป ดังนี้
• ค่าภาคหลวงสำหรับแหล่งบนบก ให้จัดสรรแก่ท้องถิ่นตามประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดังนี้
ก. อัตราร้อยละ 20 ให้แก่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)และเทศบาลในเขตพื้นที่สัมปทานที่มีการผลิตปิโตรเลียม
ข. อัตราร้อยละ 10 ให้แก่ อบต. และเทศบาลอื่นที่อยู่ในจังหวัดที่มีพื้นที่ครอบคลุมการผลิตปิโตรเลียม
ค. อัตราร้อยละ 10ให้แก่ อบต. และเทศบาลที่อยู่ในจังหวัดอื่น (ทั่วประเทศ)
ง. อัตราร้อยละ 20 ให้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)
จ. ส่วนที่เหลือร้อยละ 40 นำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
การจัดสรรตาม ก ให้จัดสรรตามจำนวนองค์กร ส่วนการจัดสรรตาม ข และ ค ให้จัดสรรตามสัดส่วนจำนวนประชากร ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร
• ค่าภาคหลวงสำหรับแหล่งในทะเล ให้นำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินทั้งหมด
เมื่อครบกำหนดเวลาที่จะต้องจัดสรรเงินค่าภาคหลวงปิโตรเลียม ให้แก่ ท้องถิ่นให้จัดทำรายงานสรุปรายละเอียดจำนวนเงินที่จัดสรรและนำฝากไว้ที่กรมบัญชีกลาง และโอนเงินดังกล่าวให้แก่องค์กรท้องถิ่นต่างๆ โดยส่งรายงานการจัดสรรเงินให้แก่ กองคลัง ปีละ 4 งวด ดังนี้
ระยะเวลา | เงินที่จัดเก็บในเดือน | จัดสรรภายในเดือน |
งวดหนึ่ง | ตุลาคม - ธันวาคม | มกราคม |
งวดสอง | มกราคม - มีนาคม | เมษายน |
งวดสาม | เมษายน - มิถุนายน | กรกฏาคม |
งวดสี่ | กรกฎาคม - กันยายน | ตุลาคม |