เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายต่างๆที่เกี่ยวข้อง
ประวัติกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ |
วิสัยทัศน์ พันธกิจ วัฒนธรรมองค์กร |
หน้าที่และอำนาจ |
ภารกิจ |
ยุทธศาสตร์ และแผนปฏิบัติราชการ |
นโยบายพลังงาน |
โครงสร้างองค์กร |
ทำเนียบบุคลากร |
ผู้บริหาร |
ราชการบริหารส่วนกลาง |
สำนักงานเลขานุการกรม |
กองความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมเชื้อเพลิงธรรมชาติ |
กองจัดการเชื้อเพลิงธรรมชาติ |
กองเทคโนโลยีการประกอบกิจการปิโตรเลียม |
กองบริหารกิจการปิโตรเลียมระหว่างประเทศ |
กองบริหารสัญญาและสัมปทานปิโตรเลียม |
กองยุทธศาสตร์และแผนงาน |
กองสัญญาแบ่งปันผลผลิต |
ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร |
กลุ่มตรวจสอบภายใน |
กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร |
ผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง (CIO) |
สถานที่ติดต่อ |
Logo กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ |
พระราชบัญญัติปิโตรเลียม |
พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม |
พระราชบัญญัติองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย |
พระราชบัญญัติความผิดเกี่ยวกับสถานที่ผลิตปิโตรเลียมในทะเล |
คู่มือมาตรา 69/70 |
คู่มือการจัดการของเสียจากสถานประกอบกิจการปิโตรเลียม |
คู่มือการจัดทำรายงานสิ่งแวดล้อมสำหรับการสำรวจคลื่นไหวสะเทือน |
คู่มือการเปลี่ยนแปลง สิทธิ ประโยชน์ และพันธะในสัมปทานปิโตรเลียม ภายใต้ พ.ร.บ. ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 |
ตามที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องสงสัย ข้อหาวางเพลิงเผาห้างโลตัส จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งระบุว่าภายหลังก่อเหตุได้เดินทางไปปฏิบัติงานที่แท่นขุดเจาะปิโตรเลียม นั้น
นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ได้รับรายงานแล้ว และขอชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ว่าจากการตรวจสอบพนักงานคนดังกล่าว เป็นพนักงานของบริษัท Weatherford KSP จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรับจ้างเหมาบริการของบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจ และผลิต จำกัด และช่วงเวลาที่ระบุว่าก่อเหตุเป็นช่วงเดินทางกลับขึ้นฝั่งเพราะหยุดพักการปฏิบัติงานบนแท่นขุดเจาะปิโตรเลียมในอ่าวไทย และภายหลังจากนั้นเป็นช่วงสิ้นสุดการหยุดพักจึงได้เดินทางกลับไปปฏิบัติงานตามกำหนด โดยที่บริษัท เชฟรอนฯ แจ้งว่ามิได้ทราบและไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของพนักงานคนดังกล่าว แต่ภายหลังจากได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีบุคคลต้องสงสัยว่ากระทำการผิดกฎหมายเดินทางมาปฏิบัติที่แท่นขุดเจาะปิโตรเลียม บริษัท เชฟรอนฯ ได้ให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดีและดำเนินการตามระเบียบปฏิบัติของบริษัททุกประการ โดยได้อำนวยความสะดวกเรื่องการเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ออกเดินทางจากศูนย์สนับสนุนการบินของบริษัทเพื่อจับกุมบุคคลดังกล่าว ซึ่งขณะนั้นปฏิบัติงานอยู่ที่แท่นขุดเจาะ T16 และนำตัวกลับฝั่งเพื่อสอบสวนต่อไป
ทั้งนี้ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลบริษัทผู้รับสัมปทานในการประกอบกิจการด้านปิโตรเลียม ได้สั่งการบริษัทให้ความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ และขอให้กำชับให้พนักงานทุกคนปฏิบัติตนให้เป็นไปตามกฎหมายทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรวมถึงกฎหมายอื่นอย่างเคร่งครัด
14 สิงหาคม 2559
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ