เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายต่างๆที่เกี่ยวข้อง 

เลือกเปลี่ยนภาษา
ไทย อังกฤษ

กระทรวงพลังงาน ร่วมกับผู้ประกอบการด้านปิโตรเลียม จับมือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดกิจกรรมปลูกป่าและฟื้นฟูสภาพป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเมี่ยงและภูทอง จังหวัดพิษณุโลก

Topic

วันนี้ (19 กรกฎาคม 2561) นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานมูลนิธิกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติและผู้ประกอบการด้านปิโตรเลียม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการปลูกป่าและฟื้นฟูสภาพป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเมี่ยงและภูทอง เนื้อที่รวม 2,000 ไร่ ณ บริเวณท้องที่บ้านขุนน้ำคับ ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก โดยมีข้าราชการ และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่วนราชการและส่วนท้องถิ่นจังหวัดพิษณุโลก นักเรียน นักศึกษา และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมกว่า 600 คน 

โครงการปลูกป่าและฟื้นฟูสภาพป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเมี่ยงและภูทอง จังหวัดพิษณุโลก เป็นโครงการที่กระทรวงพลังงาน โดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ร่วมกับผู้ประกอบการด้านปิโตรเลียม และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการขึ้น เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในหลวงรัชกาลที่ 10 ในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และสร้างแหล่งอาหารสัตว์ป่า ตามนโยบายการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้ พ.ศ. 2557 โดยเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ 40% ของประเทศไทย ภายในระยะเวลา 10 ปี ซึ่งได้คัดเลือกพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเมี่ยงและภูทอง อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก จำนวน 2,000 ไร่ เป็นพื้นที่ดำเนินการ โดยแบ่งเป็น 6 แปลง ประกอบด้วย แปลงเนื้อที่ 200 ไร่ จำนวน 1 แปลง แปลงเนื้อที่ 300 ไร่ จำนวน 2 แปลง และแปลงเนื้อที่ 400 ไร่ จำนวน 3 แปลง  

สำหรับระยะเวลาการดำเนินงาน มีจำนวน 3 ปี โดยในปีแรก (พ.ศ. 2561) มีการดำเนินงานตั้งแต่กรกฎาคม ถึง ธันวาคม 2561 จะเป็นการปลูกป่า จำนวน 2,000 ไร่  และทำโป่งเทียมเพื่อเป็นอาหารของสัตว์ป่า จำนวน 50 แห่ง และสำหรับในปีที่ 2 และ 3 (พ.ศ. 2562 - 2563) จะเป็นการบำรุงและรักษาป่า โดยหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินงาน 3 ปี จะส่งมอบให้กับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต่อไป